จากเด็กตัดอ้อย สู่ สส.กาญจนบุรี
หากให้เช็คลิสต์ว่า กาญจนบุรีมีดีอะไรบ้าง ทั้งในแง่การท่องเที่ยว และศักยภาพของเมือง เราคงต้องไล่เลียงข้อดีกันจนเหนื่อย เช่นเดียวกับข้อจำกัดของการพัฒนาเมือง ที่ถ้าให้พูดถึง สส. พนม โพธิ์แก้ว ก็คงร่ายยาวได้ทั้งวันเช่น เพราะนอกจากเขาจะเป็น สส. ไฟแรงสมัยแรก ในพื้นที่กาญจนบุรี เขต 5 เขายังเกิดและเติบโต ณ ที่แห่งนี้ แถมรู้ซึ้งรสชาติปัญหาชาวบ้านได้ดีไม่น้อวกว่าใคร ด้วยวัยเด็กที่ยากลำบากชนิดที่ว่า ‘จนจนเข็ด’ กระเสือกกระสนส่งตัวเองเรียน พร้อมๆ กับการรับจ็อบสารพัด ตั้งแต่เก็บพริก ตัดอ้อย หาปลา ขับรถส่งของ เสิร์ฟอาหาร ซ่อมคอมพืวเตอร์ กระทั่งว่าบางช่วงตอนของชีวิต เขาต้องรับหน้าที่สัปเหร่อจำเป็นมาแล้วมี สำหรับเขา กาญจนบุรี คือเมืองที่รุ่มรวยด้วยทรัพยากรธรรมชาติ แต่ยากจนโอกาสในการเติบโตด้านอื่นๆ เพราะแม้เป็นเมืองขนาดใหญ่ ท่วาที่ดินเมืองกาญจน์กว่า 70% กลับเป็นที่หลวง อีกทั้งที่ผ่านมาการใช้กฎหมายกำหนดเขตป่าสงวนแห่งชาติ หรือเขตป่าอนุรักษ์ ก็ทับซ้อนกับที่ชุมชน ทำให้เกิดปัญหาการพิสูจน์สิทธิ์และการครอบครอง ชาวบ้านส่วนมากไม่มีที่ดินทำกิน ไร้เอกสารสิทธ์ บวกกับนโยบายทวงคืนผืนป่าในยุค คสช. ที่ทำให้ประชาชนจำนวนมากสูญเสียที่ดิน บ้างกลายเป็นจำเลยที่ต้องกู้หนี้ยืมสินต่อสู้ในชั้นศาล บ้างก็ต้องตรากตรำทำงานเอาชีวิตรอดวันต่อวัน โอกาสที่นักลงทุนจะมาลงทุนในพื้นที่เช่นนี้จึงริบหรี่ เมืองจึงโตได้ไม่เท่าศักยภาพและขนาดที่มีอยู่ วอยซ์ ชวน พนม โพธิ์แก้ว สส. กาญจนบุรี เขต 5 อดีต สจ. 2 สมัย มาสนทนาว่าด้วยชีวิต ตัวตน ของ สส. หน้าใหม่ไฟแรง ที่พกไอเดียการพัฒนาเมืองและความมุ่งมั่น ลุยทำงานในพื้นที่หลังชนะการเลือกตั้ง เขามีวิธีคิดและมีวิธีมองปัญหาอย่างไร และจำทำอะไรบ้างในฐานะ ‘ผู้แทนราษฎร’ เรื่อง : อรสา ศรีดาวเรือง ถ่ายภาพ : ณปกรณ์ ชื่นตา ตัดต่อวิดีโอ : อัศวิน ปินใจ #VoicePolitics